ข้าวไรซ์เบอร์รี่มาจากไหน

ข้าวไรซ์เบอร์รี่ (Riceberry) เป็นข้าวสายพันธุ์ใหม่ที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่าง ข้าวหอมมะลินิล (สายพันธุ์พ่อ) และ ข้าวขาวดอกมะลิ 105 (สายพันธุ์แม่) ซึ่งเป็นผลงานการปรับปรุงสายพันธุ์ของ รศ.ดร.อภิชาติ วรรณวิจิตร และทีมนักวิจัยจาก ศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าว มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และความร่วมมือจากคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550

คุณลักษณะสุดพิเศษ

ข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นข้าวจ้าวสีม่วงเข้ม เมล็ดเรียวยาว ผิวมันวาว มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ รสชาติหวาน และสีม่วงของข้าวไรซ์เบอร์รี่นี้ก็เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เนื่องจากมีส่วนประกอบเป็นสารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ซึ่งก็คือรงค์วัตถุหรือสารสี สามารถละลายน้ำได้ดี และจัดอยู่ในกลุ่มของฟลาโวนอยด์ (Flavonoid) หรือ สารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีประสิทธิภาพสูง

คุณประโยชน์เต็มเมล็ด

ข้าวไรซ์เบอรี่ อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร ทั้งสารต้านอนุมูลอิสระ, โฟเลต, เบต้าแคโรทีน, แกมมาโอโรชานอล, ลูทีน, วิตามินอี, วิตามินบี 1, แทนนิน, โอเมก้า 3, ธาตุเหล็ก, โพลีฟีนอล, สังกะสี และเส้นใย เป็นต้น ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงสายตา บำรุงระบบประสาท ลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็ง ลดระดับไขมันและคอเรสเตอรอล มีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจนช่วยชะลอความแก่ นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคต่างๆ ได้อย่างมากมาย ทั้งโรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ โรคสมองเสื่อม โรคโลหิตจาง และโรคความดันโลหิตสูง

คุณค่าทางโภชนาการ

ปริมาณอะไมโลส (amylose)        15.60%

อุณหภูมิแป้งสุก                          < 70                 องศาเซลเซียส

เหล็ก                                         13-18               มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

สังกะสี                                     31.9                 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม

โอเมก้า 3                                   25.51               มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม

วิตามินอี                                    678                  ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม

โฟเลต                                       48.1                 ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม

เบต้า-แคโรทีน                            63                    ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม

โพลีฟีนอล                                 113.5               มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม

แทนนิน                                     89.33               มิลลิกรัมต่อ 100 กรัม

แกมมาโอไรซานอล                      462                  ไมโครกรัมต่อ 100 กรัม

ค่าดัชนีน้ำตาล                           62

ที่มา : ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าวและหน่วยปฏิบัติการค้นหาและใช้ประโยน์ยีนข้าว

ใครๆ ก็ทานข้าวไรซ์เบอร์รี่

ข้าวไรซ์เบอร์รี่เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย เพราะเป็นข้าวที่มีสารอาหารและคุณประโยชน์ที่สูง ไม่เพียงแต่ผู้รักสุขภาพเท่านั้นที่ควรรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่ แต่ยังเหมาะกับบุคคลกลุ่มต่างๆ ดังนี้

• ผู้สูงอายุ หากรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่ ก็จะได้รับประโยชน์มากมาย เนื่องจากมีสารอาหารที่ช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงสายตาและระบบประสาท เสริมสร้างประสิทธิภาพการไหลเวียนของเลือด และช่วยชะลอความแก่อีกด้วย

• สตรีมีครรภ์ ควรรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่เพราะจะช่วยให้ทารกในครรภ์แข็งแรง เนื่องจากในข้าวไรซ์เบอร์รี่มีสารโฟเลตที่สามารถป้องกันโรคปากแหว่งเพดานโหว่ที่จะเกิดกับทารกในครรภ์ได้นอกจากนี้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ยังมีน้ำตาลต่ำ ช่วยให้คุณแม่ควบคุมน้ำหนักได้ดีป้องกันอาการครรภ์เป็นพิษ และในข้าวยังอุดมไปด้วยธาตุเหล็กซึ่งเป็นแร่ธาตุที่คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการมากกว่าคนปกติ

• เมื่อทราบกันแล้วว่าข้าวไรซ์เบอร์รี่นั้นมีน้ำตาลต่ำกว่าข้าวทั่วไป ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคอ้วน ที่ต้องการควบคุมน้ำตาลหรือควบคุมน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

• นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก หากรับประทานข้าวไรซ์เบอร์รี่เป็นประจำสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับธาตุเหล็กและสารอาหาร ที่เป็นตัวช่วยในการบำรุงโลหิตและบำรุงร่างกายให้แข็งแรงอีกด้วย

วิธีหุงข้าวไรซ์เบอร์รี่ให้อร่อย

การหุงด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้า สัดส่วน ข้าว 1 ส่วน : น้ำ 2 ส่วน แล้วกดหุงตามปกติ เมื่อข้าวสุกแล้วให้พักไว้ในหม้อหุงข้าวก่อนรับประทานประมาณ 10 นาที เพื่อให้ข้าวระอุเต็มที่ เพียงเท่านี้ก็จะได้ข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่หอมนุ่มน่ารับประทาน

“ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ตรารักจัง”

นอกจากข้าวไรซ์เบอร์รี่จะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่างๆ มากมายแล้ว และจะดีกว่าแค่ไหนหากเป็น “ข้าวไรซ์เบอร์รี่อินทรีย์ ตรารักจัง” ข้าวออร์แกนิคแท้ปลอดสารพิษ 100% ที่ปลูกอย่างพิถีพิถันจากความมุ่งมั่นตั้งใจของชาวนากลุ่มเล็กๆ ที่รวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวอินทรีย์ ข้าวชั้นดีจากจังหวัดเชียงราย